วันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2554

เทคนิดเรียนพูดภาษาอังกฤษ จีนและญี่ปุ่นจ้า^__^

เทคนิคการเรียนพูดภาษาอังกฤษให้ได้เร็ว และง่าย


1.ลืมเสียงผิดๆ แบบไทยๆ ที่คุณเคยรู้มาให้หมด
2.เรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยการจำเสียงที่ได้ยินใหม่(เสียงภาษาอังกฤษแบบฝรั่งพูดกัน) อย่าพึ่งกังวลกับหลักภาษามากนัก3.อย่าขี้เกียจ อ้าปาก ขยับปาก ขยับลิ้น ในการพูดภาษาอังกฤษ
ตามเทคนิคการออกเสียงตัวอักษร
ในVCD เพราะการพูดภาษาอังกฤษใช้วิธีพูดต่างกับภาษาไทยมาก
พยายามทำตามตัวอย่างในVCD
4.สร้างสิ่งแวดล้อมรอบตัวให้คุณ ได้ฟัง ได้เห็น และได้พูด
คำภาษาอังกฤษให้บ่อยขึ้นคุณอาจเขียนคำที่กำลังฝึกพูดไว้
หน้าประตูห้องหรือที่อื่นๆ, แบ่งเวลาดูVCDให้ต่อเนื่อง
และที่สำคัญ ขอให้คุณเปล่งเสียงคำภาษาอังกฤษที่ได้ยิน
ตามวิธีออกเสียงในVCDบทเรียนบ่อยๆจนออกเสียงได้ถูกต้อง
ครบทุกคำ อย่าอายแม้ว่าคุณยังพูดไม่คล่อง
เมื่อคุณทำบ่อยขึ้นก็จะดีเอง
หลังจากที่คุณทำได้แล้วก็ก้าวไปสู่การออกเสียงทีละประโยค
ใช้วิธีเรียนรู้ด้วยความจำก่อนเมื่อพูดได้แล้ว
สำหรับผู้ใหญ่จะเรียนหลักภาษาเพื่อให้พูดได้ดีขึ้นก็ยิ่งง่าย
อย่างนี้คุณจะสนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษ
เพราะคุณจะพูดโต้ตอบกับฝรั่งได้
ไม่ต้องอึดอัด อมเสียงพูดไว้ในพุงเหมือเดิม

เทคนิคการเรียนจีน

1. ต้องรักภาษาจีนให้เหมือนแฟนเรา
2.อย่าขี้เกียจส่งการบ้านอาจารย์  อันนี้สำคัญมากค่ะ โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มต้นเรียน เริ่มต้นเรียนภาษาจีนถ้าขี้เกียจก็ไม่ต้องหวังจะเก่งเลยค่ะ
3.ขยันท่อง/ อ่าน/คัด/ ฝึกแต่งประโยค บ่อย ๆ ค่ะเมื่อก่อนสมัยที่พี่จิ๋วเริ่มเรียนภาษาจีนใหม่ ๆ พี่จิ๋วคัดอักษรจีนจนมือด้านเลยค่ะ (อันนี้เรื่องจริงค่ะ)  เคยท่องอ่านเพื่อสอบจนร้องไห้ยังมีเลยค่ะ คือเราต้องยอมลำบากเพื่อสบายวันข้างหน้าค่ะ  อีกอย่างอักษรจีนเป็นอักษรที่ต้องการความใส่ใจจากเรามากเป็นพิเศษค่ะ ไม่ใช่ว่าวันนี้น้องเขียนได้จำได้อนาคตมันจะอยู่ติดสมองเราตลอดไปน่ะค่ะ มันมีวันลืมค่ะ ขนาด อย่างพี่จิ๋วบางอักษรอ่านได้ พิมพ์คอมได้ แต่พอให้เขียน ยังมีตายเลยค่ะ ดังนั้นหมั่นเขียนหมั่นท่องบ่อย ๆ น่ะค่ะ
  การแต่งประโยคก็สำคัญมากค่ะ ขอแนะนำว่า ทันทีที่น้องได้เรียนผ่านบทเรียนเจอศัพท์ใหม่ๆให้หัดแต่งประโยคเลยค่ะ บางอย่างไม่จำเป็นต้องรอให้อาจารย์สั่งให้ทำการบ้านหรอกน่ะค่ะ เราทำเองเลยค่ะ พอแต่งเสร็จลองให้อาจารย์ตรวจดูค่ะว่าถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกต้องรบกวนอาจารย์ช่วยแก้และอธิบาย แล้วเราก็จำรูปแบบประโยคที่อาจารย์ท่านกรุณาแก้ไขให้เราค่ะ
4. เทคนิคการพูดภาษาจีนให้เก่ง 
   * อย่ามองข้ามพินอินน่ะค่ะ พินอินมีส่วนช่วยในการออกเสียงให้ถูกต้องอย่างมาก  มีหลายคนที่มองข้าม zh ch sh r พูดออกมามันก็จะดูแข็งๆ น่ะค่ะ  ลองหันกลับมาให้ความสำคัญแล้วฟังเทปภาษาจีนหรือดูหนังเซาแทคภาษาจีนบ่อย ๆ รับรองน้องจะสามารถพัฒนาสำเนียงภาษาจีนด้วยตนเองได้น่าฟังกว่าเดิม
   * อย่าอายที่จะกระแดะพูดภาษาจีนในห้องเรียนค่ะ เพราะความอายมิคู่ควรกับผู้ที่เรียนภาษาค่ะ
   * ฝึกพุดภาษาจีนกับตนเองในกระจก อาจดูเป็นวิธีที่บ้า แต่ได้ผลสุด ๆ ค่ะ  เพราะน้อง ๆ จะได้เห็นทั้งสีหน้า รูปปาก และฝึกให้ตนเองไม่เกร็งได้ค่ะ เพราะเวลาเรามองตนเองพูดแรก ๆจะเกร็งตนเองค่ะ แต่พอหลังจากนั้นจะคล่องขึ้นค่ะ หลายคนถามว่าจะให้พูดอะไร พูดอะไรก็ได้ค่ะที่เป็นภาษาจีน อาจสมมติว่าคนในกระจกเป็นเพื่อนเรา หรือเราอาจจะบ่นอะไรให้เป็นภาษาจีน ประมาณนี้ค่ะ
5. หาความรู้เพิ่มเติมนอกบทเรียน เช่น มาหาความรู้เพิ่มเติมจากเว็บ
6. นั้งสมาธิก่อนเริ่มท่องศัพท์ 5 นาที
7. กตัญญูเหล่าซือ รู้คุณประเทศจีน น้อง ๆ อาจงงว่าเกี่ยวกันมั้ยหว่า เกี่ยวสนิทค่ะ คนจีนเรามีความเชื่อเรื่องความกตัญญูรู้คุณจะเป็นสิ่งที่นำทางสู่ความเจริญค่ะ คนกตัญญูรู้คุณอาจารย์ย่อมเป็นที่รักได้รับความรู้จากอาจารย์อย่างเต็มพลัง
   
เทคนิคการเรียนภาษาญี่ปุ่นให้ดีขึ้น Smiley 

การจะทำอะไรให้ดี ต้องมีความรักความชอบที่จะทำสิ่งนั้น
เพราะจะทำได้ออกมาดีและมีความสุขกับสิ่งที่ทำ
การเรียนภาษาญี่ปุ่นก็เหมือนกัน
ต้องถามตัวเองก่อนว่า ชอบไหม” 
เมื่อชอบก็ถามตัวเองต่อว่า “เรียนไปเพื่ออะไร” เช่น เพื่อทำงาน เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นงานอดิเรก หรืออื่นๆ จากนั้นให้ตั้งเป้าหมาย เพื่อให้มีแรงบันดาลใจในการเรียน Smiley



เทคนิคการจำคำศัพท์1.คำศัพท์เก่าที่เคยเรียนมาแล้ว ให้หมั่นทบทวนอยู่เสมอเพื่อไม่ให้ลืม
2.คำศัพท์ใหม่Smiley ให้หาคำศัพท์ใหม่จำเพิ่มเข้าไปอยู่เรื่อยๆ
ตรงนี้อาจจะหามาจาก หนังสือเรียน นิตยสารญี่ปุ่น หรือทีวีก็ได้
เมื่อเจอคำศัพท์ที่เราไม่รู้ ให้จดและเปิดพจนานุกรม
3.คันจิ การจำคันจินั้นให้ใช้ตาดู ปากท่อง และมือเขียนไปพร้อมๆกัน
เป็นเทคนิคการใช้ร่างกายหลายส่วนในการช่วยจำ
Smiley

การจำไวยการณ์
หลักในการจำไวยกรณ์คือ จำกฏ ข้อบังคับ และข้อยกเว้น Smiley
การจำไวยกรณ์ต้องอาศัยความเข้าใจเป็นหลัก และสามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง
ผู้เรียนอาจมีหนังสือ,ตำราเรียนไว้หลายๆเล่ม เพื่อทำความเข้าใจกับรูปประโยคให้ถ่องแท้
หรือให้ถามอาจารย์หรือผู้รู้เมื่อมีข้อสงสัย

2.หาสื่อที่อยู่รอบๆตัว
 เช่น ดูหนังSmiley ดูทีวี ฟังเพลงSmiley อ่านนิตยสารหรือการ์ตูนภาษาญี่ปุ่น

3.ฝึกแต่งประโยคยามว่างอาจจะเป็นประโยคง่ายๆอย่างประโยคในชีวิตประจำวัน หรือเขียนไดอารี่











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น